1
วงเหล้า บ้านดิน ผู้ก่อการ
หลายท่านคงได้ยินและรู้จัก บ้านดิน มาบ้างไม่มากก็น้อย เหมือนเช่นกับผมที่รู้จักบ้านดินเพียงแค่รูปภาพและเนื้อหาในหนังสือเท่านั้น จริง ๆ แล้ว ก็ไม่เคยเชื่อเรื่องดินนำมาสร้างเป็นบ้านเท่าไรนักหรอก และบ้านดินไม่เคยอยู่ในหัวสมองผมเลย อันที่จริงผมมีโครงการจะสร้างบ้านหลายครั้งหลายหน ออกแบบบ้านแล้วให้พรรคพวกเพื่อนฝูงเขียนแบบให้ ผมเลยมีแบบแปลนเยอะ ขึ้นอยู่กับสถานที่เป็นหลัก และแต่ละหลังหลักล้านทั้งนั้น เพราะผมอยากมีกิจกรรมมากมายในบ้าน ก็เลยไม่สามารถตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออกไปได้
ด้วยความที่ไม่มีดวง หรืออะไรก็ไม่ทราบ พอเริ่มขยับเรื่องเขียนแบบ ขออนุญาต ก็มีอันต้องเป็นไปทุกที เนื่องจากต้องเปลี่ยนที่อยู่กะทันหัน ลูกเต้าก็ย้ายโรงเรียนกันเป็นว่าเล่น ชนิดที่ว่าไม่ได้เรียนดีเหมือนลูกชาวบ้านชาวช่องเขา แต่เราก็คิดว่ามันไม่ทำให้ชีวิตเสียหายอะไรมาก แล้วเราก็ม้วนแปลนบ้านหลังนั้นไว้ที่เก็บของหน้ารถ แล้วออกเดินทาง ในรถนั้นมีลูกเมียกับข้าวของไม่กี่ชิ้น ผมซึ้งในคำว่า ชีวิตคือการเดินทาง เรามีเป้าหมายในหนทางข้างหน้า เราแปลนมันไว้อย่างหยาบ ๆ เรากำลังจะไปหามัน...ความฝัน
จนกระทั่งวันหนึ่ง ตุ่นแวะเวียนมาเยี่ยม มุก ที่บ้านตะโหมด ตุ่นแนะนำให้อ็อดรู้จักกับมุกภรรยาของผมเอง บังเอิญวันนั้นผมอยู่ต่างจังหวัด แมนซึ่งเป็นน้องชายมุกทำหน้าที่เลี้ยงเหล้าเย็น ซึ่งเป็นของโปรดตุ่นกับอ็อด ค่ำวันนั้นมุกบอกผมว่าพอเหล้าเข้าปากตุ่นกับอ็อดก็บรรยายสรรพคุณตัวเองให้แมนและพ่อ ( ตา ) เกี่ยวกับเรื่องบ้านดิน ประมาณว่าทั้งคู่มีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการสร้างบ้านดิน ทำนองว่าง่าย เป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว พ่อพอได้ยินว่าง่ายและมีคนอาสาทำให้ก็ชอบ ซึ่งเป็นนิสัยส่วนตัวของพ่ออยู่แล้ว
“ อุปกรณ์อะไรบ้าง เยอะไหม ” พ่อเริ่ม
“ ก็ดินรถสองรถ กับแกลบอีกนิดหน่อย ” ตุ่นชิงตอบ
“ ถ้าพ่ออยากได้ ผมมาทำให้ แต่ต้องให้แมนช่วยด้วย ” อ็อดเสนอตัว
“ ไม่มีปัญหา ดินแค่นั้น ส่วนแกลบบ้านเรามีเยอะ ” พ่อพูดแสดงท่าทีสนใจ
“ พี่ว่างวันไหน มาเลย เริ่มกันเลย ” แมนคล้อยตาม
นั่นเป็นบางบทสนทนาที่คุยกันในค่ำวันนั้น ยิ่งกินก็ยิ่งเมา ยิ่งดึกยิ่งสว่าง พ่อและแมนต่างเข้านอน อ็อดฟุบคาโต๊ะเหล้า ส่วนตุ่นอุตส่าห์พาตัวเองเข้าครัว มาพบอีกทีตอนเช้านอนพับอยู่ใต้โต๊ะกินข้าว ไม่อาจรู้ได้เลยจริง ๆ ว่าเมื่อคืนใครหลับฝันถึงสิ่งใด
และนี่คือที่มาทีไปของบ้านดิน ผมว่ามันเป็นบ้านที่ง่าย หากฟังเรื่องราวที่มุกมาเล่าให้ฟังจากวงเหล้าในค่ำคืนนั้น ส่วนตัวเองแล้วรู้สึกเฉย ๆ อาจเป็นเพราะว่าไม่มีอารมณ์ร่วมในวงเหล้าคืนนั้นกระมัง และเรื่องราวของบ้านดินไม่ได้หยุดลงเพียงแค่นี้ ก็อย่างที่บอก อะไรที่ง่ายและมีคนอาสาทำให้ พ่อ ( ตา ) ผมชอบ และคำว่า “ บ้านดิน ” กลายมาเป็นประเด็นร่วมของคนในครอบครัว มีการถกเถียง แลกเปลี่ยน และลงมติ กันว่า “ ทำ ” หลังจากสองคนนั้นกลับปาดังเบซาร์ไปแล้ว
ด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่ ทำอะไรยึดหลักประชาธิปไตย อย่างที่ว่า ถกเถียง แลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น และลงมติ มีการแบ่งงานกันทำ มุก เป็นผู้ประสานงาน พ่อกับแมนเตรียมวัสดุอุปกรณ์ อ็อดเป็นนายช่างหลัก ตุ่นเป็นผู้ช่วยช่าง หากวันไหนเปรี้ยวปากก็มาได้ ในเบื้องต้นทุกอย่างวางแผนกันไว้แบบนี้
หลายวันต่อมา
เมื่อทุกคนส่งสัญญาณบอกความพร้อม มุกนับ...นึง...ส่อง...ซ่าม...........เริ่มได้