6. ความฝัน + ความมุ่งมั่น = พลังอันยิ่งใหญ่
ทุกคนในครอบครัวเวลาว่างจากงานประจำก็จะมาช่วยกันต่อเติมความฝัน ใครมีความฝันอะไร ก็เอามาแชร์กัน แน่หล่ะ ความฝันเป็นมโนธรรม มีคำพูดหนึ่งที่ผมจำได้เสมอนั่นคือ “ ความฝันจะยังคงล่องลอยอยู่ในจินตนาการ มันไม่หนีไปไกล ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะสร้างอะไรเป็นบันไดเพื่อที่จะปีนไปยึดเกี่ยวมันไว้ และเมื่อนั้นแหละมันจะกลายเป็นความจริง” ผมก็เชื่อเช่นนั้น เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันหลายอย่าง คล้ายว่าเป็นคนล่าฝันอะไรทำนองนั้น หลายอย่างหลุดมือไป แต่ก็ไม่เป็นไรพยายามคว้ามันต่อไป ความฝันตัวไหนคว้าได้ง่าย ก็คว้าไว้ก่อนตามเวลาและโอกาสเหมาะสมที่อำนวยให้ ผมพบว่าหากเราฝันอะไรที่มันเล็ก ๆ แล้วมันจะสำเร็จง่าย อะไรที่มันใหญ่มันจะสำเร็จยาก แต่ใช่ว่าเราจะทิ้งความฝันนั้น เพียงแต่เราถอยกลับมาตั้งหลักกันใหม่ ระหว่างนั้นก็หัดสร้างความฝันเล็ก ๆ ขึ้นมาปลอบประโลมหัวใจ ให้มันพองโตอยู่ตลอดเวลา แค่นี้ก็รู้สึกว่าชีวิตมันซาบซ่าดีแท้
และอีกอย่างที่นักล่าฝันทั้งหลายขาดเสียไม่ได้เลยนั่นก็คือ ความมุ่งมั่น ไม่ลดละ แต่อย่าให้ถึงขั้นบ้าบิ่นก็แล้วกัน ชีวิตทุกชีวิตมีจังหวะจะโคน บางครั้งลื่นไหลน่าอภิรมย์ บางครั้งติดขัดอึดอัดไปเสียหมด ขอให้จำไว้ว่าในช่วงเวลาที่ลื่นไหล มักไม่ค่อยมีอุปสรรมาขัดขวาง ก็ขอให้เร่งฝีเท้าให้เต็มกำลัง หากเจอบางช่วงบางตอนที่เจออุปสรรค ก็ให้ลดฝีเท้าลง ค่อย ๆ แก้ ค่อย ๆ ก้าวไป อย่าฝืนเร่งเพราะมันเป็นความพยายามที่เปล่าประโยชน์ จงเบิกบานอยู่กับความเนิบช้านั้น จนกว่าจะหลุดพ้น
แล้วคุณจะพบว่ายังมีกำลังกายดีอยู่ และกำลังใจก็ยังเบิกบานดีอยู่ เหล่านี้เพราะคุณมีสติดีอยู่ ไม่ฟุ้งซ่าน และพร้อมจะก้าวต่อไปยังจุดหมาย นั่นคือพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรที่จะฉุดไว้อยู่
ทั้งความฝันและความมุ่นมั่นถูกอัดแน่นลงไปในทุกอณูของเนื้อดิน นำมาเรียงรายตามความฝัน จนกลายมาเป็นความจริง ความจริงที่แท้ก็คือความง่าย แสนจะธรรมดา และอยู่ใกล้เรานี่เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น