7. ดินก้อนที่ร้าว
ผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดีที่จะสื่อสารเพื่อบอกว่า ดินที่เรามานำย่ำจนเป็นเนื้อเดียวกันนั้น แล้วนำมาอัดเป็นบล็อก มีบางก้อนที่แตกร้าวเป็นตำหนิ เราก็จะแยกไว้อีกหนึ่งต่างหาก นำก้อนที่ดีนำไปก่อสร้างก่อน ส่วนดินก้อนที่ร้าวนั้นเกิดจากความผิดพลาดสองประการหลัก คือหนึ่งเกิดจากตัวเราเองที่นำมาอัดบล็อกไม่แน่นพอ หรือประการที่สองเกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือปัจจัยอื่น อาจจะโดนแดดจัดแห้งเร็วไปหน่อย ทั้งสองประการย่อมแก้ไขได้ง่ายดาย
คนก็เช่นกัน ต่อให้มีอุดมการณ์เดียวกัน มีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนกัน แต่ระหว่างการร่วมทางเดินนั้นย่อมมีการสะดุดแข้งสะดุดขากันบ้างเป็นธรรมดา ที่บ้านดินแห่งนี้ก็มีเช่นกันเมื่อพักหลังอ็อดเริ่มจะรื่นรมย์กับสุรามากไปหน่อย งานเริ่มหยุดชะงัก งานไม่เดิน เพราะอ๊อดเป็นผู้นำ ในเมื่อผู้นำไม่ยอมนำ ผู้ตามอย่างแมนย่อมเดินไปไม่ถูก มีบางครั้งที่แมนพยายามที่เดินไปเอง แต่อ๊อดก็ติติงจนแมนไม่กล้าที่จะทำอะไรเพราะกลัวความผิดพลาด จนงานหยุดสนิท อ๊อดยังคงหลับใหลอยู่ในขวดเหล้า แมนหันหลังให้อ๊อด ไฟแห่งศรัทธาที่ลุกโชติช่วงอยู่ในตัวแมนเริ่มมอดลง ผม มุกและพ่อ เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจนรู้สึกอึดอัดเหมือนกัน มีความเห็นร่วมกันว่าจะประชุมทีมเพื่อหาข้อสรุปและวางแผนงานกันใหม่ นั่นหมายความว่าตุ่นต้องเป็นผู้หนึ่งในการประชุมทีมดังกล่าว
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อ๊อดได้ชักชวนน๊อตซึ่งเป็นศิษย์รุ่นน้องของสำนักบ้านดินมาช่วยงาน เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอ๊อด จู่ ๆ อ๊อดก็หมดอารมณ์ไปเฉย ๆ ในเมื่อน๊อตเดินทางมาจากภาคอีสานเพื่อมาช่วยอ๊อดทำงานบ้านดิน เราไม่รู้ว่าทั้งสองตกลงหรือมาช่วยโดยมีเงื่อนไขอะไร ทันที่ที่น๊อตเดินทางถึงพัทลุง เราก็ได้คุยกันเรื่องของคอนเซปต์งาน นั่นคือ ไม่มีค่าตอบแทนอะไรทั้งสิ้น มีแต่เหล้ายาปลาปิ้ง ข้าวปลาอาหารให้อิ่มหนำสำราญ เมื่อศิษย์พี่ศิษย์น้องมาร่วมงานกันก็ได้แชร์พลัง ความคิดสร้างสรรค์กัน และเริ่มเดินงานไปได้ระยะหนึ่งทั้งสองเริ่มมีความขัดแย้งทางความคิดกันมากขึ้น ในความขัดแย้งนั้นผมไม่ซีเรียส ใครขายความคิดเรื่องอะไรมาบอกกัน ใครไม่เชื่อ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเจ้าของความคิดยืนยันว่าดี เป็นไปได้ เราก็จะปล่อยให้ทำไปตามความคิด ความเชื่อของเขา เราคอยดู ถ้ามันเป็นจริงประจักษ์ขึ้นมาอย่างที่เขาเคยขายความคิดนั้นไว้เราก็จะยอมรับ ถือเป็นความรู้ใหม่ เพราะบ้านดินหลังนี้เราเปิดโอกาสให้ทุกคนทดลองทำอะไรก็ได้ตามความเชื่อ ผิดก็แก้ไขไป ถูกถือเป็นความรู้ใหม่อย่างที่ว่า งานเดินไปอย่างช้า ๆ ทำไปคิดไป บรรยากาศในการทำงานต่างคนต่างอึดอัดมาก โดยเฉพาะเจ้าของบ้านอย่างผม ไม่ใช่เพราะว่าต้องการเห็นบ้านเสร็จเร็ว ๆ แต่เริ่มเห็นอะไรบางอย่างที่มันสะสมขึ้นทุกวัน ความขัดแย้งทางความคิดระหว่างอ๊อดกับน๊อตเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น อ๊อดในฐานะผู้เริ่มก่อการหมดไฟ หมดแรง ไม่ยอมทำอะไร น๊อตผู้มาใหม่ไฟแรงแซงความเป็นผู้นำ อ๊อดยิ่งถดถอย
หลังการประชุมทีมทุกคนมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ อ็อดมึงพักก่อน ”
“ งานดินปล่อยให้น๊อตมันสานต่อ ”
“ งานไม้ทุกอย่าง จ้างช่างในหมู่บ้านก็แล้วกัน เพราะเราไม่มีเครื่องมือและไม่ค่อยมีความชำนาญมากนัก ”
อีกไม่กี่วันต่อมา ตุ่นมารับอ็อดกลับปาดังเบซาร์ เพื่อหลีกหนีจากเหล้าดอง เพราะน็อตก็ถือเป็นปิศาจสุราตัวหนึ่ง แล้วอ๊อดก็พักกายพักใจอยู่ที่ปาดังฯพักหนึ่ง อยู่กับเพื่อนฝูง ได้ข่าวว่าดีขึ้น เราตั้งใจว่าบ้านเสร็จเมื่อไรจะชวนอ๊อดมาพักผ่อนที่นี่ มาดื่ม มาเมามาย สักพัก สักครู่ อ๊อดจากดินก้อนที่กล้าแกร่ง วันนี้กลายเป็นดินก้อนที่ร้าว เราเลือกที่จะแยกอ๊อดไปอยู่อีกที่หนึ่ง เพราะหากฝืนอยู่ต่อคนที่เสียหายมากที่สุดคือตัวอ๊อดเอง
และแล้วงานก็เดินหน้าต่อไป งานดินที่เหลือไม่มากแล้ว แต่จะไปหนักทางงานไม้ โดยเฉพาะหลังคาซึ่งนั่นหมายถึงว่า ต่อไปนี้เราจะพูดคุยกับช่างในเรื่องแบบความต้องการของเรา นั่นหมายถึงว่า คุยกันเป็นภาษาเงินตรา เพราะเค้าไม่ยอมสนุกกับเราด้วย เมฆหมอกทะมึนดำกำลังก่อตัวขึ้นที่ท้องฟ้าด้านตะวันออก เพราะหากถ้าพูดถึงเรื่องการเสียเงินเสียทองคนที่หน้ามุ่ยคนแรกไม่ใช่ใครแต่เป็นแม่ ( ยาย ) มันไมใช่ดินแค่รถสองรถ แกลบไม่กี่กระสอบเสียแล้วสิ พ่อก็ยิ้ม ๆ ขำ ๆ หัวเราะให้กับตัวเอง
ผมกับมุกมองหน้ากันชวนกันเข้าห้องนอน ปล่อยให้น๊อตนั่งกินเหล้าอยู่เพียงลำพังกับกีตาร์เสียงแปล่ง ๆ มันแหกปากร้องเพลงอยู่คนเดียว
“ ดู่ ดู๊ ดู ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้ …”
“ ดู่ ดู๊ ดู ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้ …”
มันเป็นบทเพลงของ จ๊อบ บรรจบ แล้วผมก็เผลอหลับไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น