วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

9. ในสายตาของเพื่อนบ้าน

            อย่างที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้แล้วว่า ในสายตาของเพื่อนบ้าน ที่เหลือบมองด้วยสายตาที่แปลก ๆ วันเวลาผ่านไป วันต่อวันหลายคำถามที่ค้างคาใจเขาอยู่ได้เฉลยเผยความกระจ่างขึ้นทุกวัน  หลังจากที่เราเสร็จสิ้นภารกิจอัดบล็อกดิน  เราก็ย้ายอิฐดินเข้าไปในสวนในที่ที่จะสร้างบ้านดิน  ที่นั่นเองไม่ค่อยมีผู้คนผ่านสัญจรมากนัก มีเพียงแต่ลูกกุลีของพ่อเท่านั้นที่ต้องใช้เส้นทางเพื่อไปกรีดยางพารา  ซึ่งเรื่องราวความคืบหน้า เรื่องราวของบ้านดินได้แพร่กระจายออกมาสู่หมู่บ้าน  แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เห็นพัฒนาการของบ้านดิน จนเสร็จสมบูรณ์ เรื่องราวของบ้านดินจึงแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน  ได้ข่าวว่ามีหลายคนแอบแวะเข้าไปเยี่ยมชม
สวยดีนะ
แปลกดีนะ
สุดยอด
นึกว่าทำเล่น ๆ ธรรมดา ๆ         
แพงไหม  เป็นบ้านได้เลย
ถ้าได้อยู่ข้างนอก ติดถนน สุดยอดไปเลย
ไม่สิ...ช้างเผือกต้องอยู่ในป่า
ฯลฯ
            นั่นคือบางถ้อยคำของผู้ที่แวะไปเยี่ยมทั้งที่ตั้งใจและบังเอิญผ่านทาง  ผมเห็นแววตาของเขาเหล่านั้นเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมบวกกับความทึ่ง ๆ งง ๆ  
มันเป็นไปได้จริงแฮะ คนหนึ่งพูด
            จากเมื่อก่อนมีคำถามมากมาย  พอเห็นของจริงคำถามลดลงไปมากซึ่งเขาได้คำตอบด้วยตัวเขาเอง โดยที่เราไม่ต้องตอบหรือธิบายอะไรมาก และท้ายที่สุดเหลือเพียงบางคำถามเท่านั้น
อยู่ได้นานกี่ปี
โดนน้ำฝน นาน ๆ จะเป็นไรบ้าง
ไม่รู้ ผมตอบเขาสั้น ๆ
เพราะผมรู้ดีว่าต่อให้เราสาธยายคำตอบหรือบอกถึงความเชื่อมัน บอกถึงความศรัทธาที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมเพียงไร เขาเหล่านั้นก็คงไม่เชื่อผมหรอก...หรือว่าไม่จริง  เพราะผมเคยบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวผมเอง เรื่องบ้านดินไม่เคยอยู่ในสมองเลย  ไม่เชื่อ  จนเมื่อลงไม้ลงมือทดลองทำ  เราจะสัมผัสแรงศรัทธานั้นได้จริง  อธิบายไม่ถูก ว่ามันเป็นอย่างไร แต่ทว่าเราสัมผัสมันแล้ว...ผมไม่ถือสาคำถามเขาเหล่านั้น  ผมไม่รังเกียจสายตาเขาเหล่านั้น  และผมก็ไม่ถือโกรธหัวใจดวงน้อยของใครต่อใคร ที่ไม่ยอมเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต  ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า บ้านดินหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งจะไม่นำมาซึ่งความล่มจม สิ้นเนื้อประดาตัว  ตรงกันข้ามหากบ้านดินหลังเล็ก ๆ ดังว่านั้นผ่านบทพิสูจน์ ผ่านการทดสอบ ตอบทุกคำถามโดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ ผมถือว่าเป็นโอกาสทอง โอกาสหนึ่งในชีวิตซึ่งมีไม่มากนัก.. 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น